ใบความรู้                                                                     เรื่อง   พระพุทธศาสนามีทฤษฎีและวิธีการที่เป็นสากล และมีข้อปฏิบัติที่ยึดทางสายกลาง

     คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักความจริงที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติที่พระองค์ได้ทรงค้นพบ  ด้วยตนเองโดยชอบ คนนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้าด้วย เพราะคำว่า พุทธะ แปลว่า ผู้รู้ หรือ ผู้รู้สัจธรรม

     หลักคำสั่งสอนที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบแล้วนำมาประกาศ เปิดเผย และสั่งสอน ประชาชนชาวโลก ตลอดระยะเวลา 45 ปี เหมาะสมแก่บุคคลทุกระดับชั้น ใครก็ตามนำไปประพฤติปฏิบัติย่อมได้รับผลตามสมควรแก่การปฏิบัติ

               พระพุทธศาสนามีทฤษฎีและวิธีการที่เป็นสากล

        ทฤษฎี  หมายถึง หลักการ  คำว่า  วิธีการ หมายถึง แบบอย่างหรือกฎเกณฑ์ และ คำว่า สากล หมายถึง  ทั่วไป  ดังนั้น  พระพุทธศาสนามีทฤษฎีและวิธีการที่เป็นสากล   หมายถึง  พระพุทธศาสนามีหลักคำสั่งสอนที่เป็นหลักการและกฎเกณฑ์ เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าถูกต้อง

        หลักคำสั่งสอนที่จัดเป็นทฤษฎีและวิธีการที่เป็นสากล หลายเรื่อง เช่น หลักกฎแห่งกรรม   หลักแห่งเหตุและปัจจัย   หลักการพัฒนามนุษย์ 4 ด้าน  แต่ที่พระพุทธองค์ทรงนำมาสอนมากเป็นพิเศษ คือ หลักอริยสัจ 4 หรือ  หลักความจริงแห่งชีวิต  4  ประการ  ได้แก่

1.      ชีวิตแลโลกนี้มีปัญหา ( ทุกข์ )

    ชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้ล้วนมีปัญหาทั้งสิ้น  ปัญหาที่มนุษย์ต้องเผชิญ มีทั้งปัญหาที่เป็นปัญหาสากล เช่น ปัญหาการเกิด  แก่  เจ็บ  ตาย  ความไม่สมปรารถนา  ความพลัดพรากจากบุคคล สัตว์ สิ่งของ

2.      ปัญหามีสาเหตุ มิได้เกิดขึ้นลอยๆ ( สมุทัย )

             ปัญหาที่มนุษย์เผชิญอยู่ดังกล่าวข้างต้น มิใช่เกิดขึ้นลอยๆ หรือเกิดขึ้นโดยบังเอิญ    โดยไม่มีเหตุปัจจัย ทุกปัญหาเกิดขึ้นอย่างมีสาเหตุทั้งสิ้น

3.      มนุษย์สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง ( นิโรธ )

              เนื่องจากปัญหาทุกปัญหาย่อมมีสาเหตุ การแก้ปัญหาได้ต้องสืบสาวหาสาเหตุให้พบแล้วแก้ที่สาเหตุนั้น ซึ่งเรื่องนี้พระพุทธศาสนาได้สอนไว้ว่า  มนุษย์มีศักยภาพหรือความสามารถเพียงพอที่จะแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยตัวมนุษย์เอง

4.      การแก้ปัญหานั้นต้องใช้ปัญญาและความเพียร  ( มรรค )

                ในกระบวนการแก้ปัญหานั้น  จำเป็นต้องใช้ปัญญา ( ความรู้ ) และวิริยะ      ( ความเพียร ) อย่างเกื้อหนุนกัน จึงจะสามารถแก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วงไปได้

                 อริยสัจ 4 ประการนี้จัดเป็นทฤษฎีและวิธีการที่เป็นสากล คือ สามารถนำไปแก้ปัญหาหรือความทุกข์สำหรับทุกคนได้เป็นอย่างดี

 

 

 

         พระพุทธศาสนามีข้อปฏิบัติที่ยึดทางสายกลาง

      การแก้ปัญหาให้สำเร็จผลด้วยดี นอกจากนี้จะต้องใช้ปัญญาและความเพียรอย่างต่อเนื่องแล้ว จะต้องปฏิบัติโดยยึดทางสายกลางอีกด้วย

      ทางสายกลาง  หมายถึง  ทางที่ยึดความพอดีหรือความสมดุล ข้อปฏิบัติที่ยึดทางสายกลางตามหลัก        พระพุทธศาสนา เรียกว่า  มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่ง ได้แก่ อริยมรรคมีองค์แปด หรือ มรรค 8 หมายถึงข้อปฏิบัติ           8 ประการ   คือ 

     1. สัมมาทิฏฐิ   คือ  ความเห็นชอบ  เช่น  เห็นว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

     2. สัมมาสังกัปปะ  คือ  ความดำริชอบ ได้แก่ คิดที่จะไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น คิดที่จะไม่พยาบาทอาฆาตผู้อื่นและคิดที่จะไม่เบียดเบียนใครให้เดือดร้อน

     3.  สัมมาวาจา  คือ การเจรจาชอบ หมายถึง การพูดจาที่เว้นจากลักษณะของการพูดชั่ว 4 ประการ ได้แก่  การพูดเท็จ  การพูดส่อเสียด การพูดคำหยาบ  และการพูดเพ้อเจ้อไร้สาระ   โดยพูดแต่สิ่งที่จริงมีประโยชน์       พูดด้วยเมตตา  พูดวาจาไพเราะ  และพูดในเวลาที่ควรพูด

4.สัมมากัมมันตะ  คือ  การทำงานชอบ  หมายถึง การประพฤติหรือการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเว้นจากการประพฤติชั่วทางกาย 3 ประกาย คือ  การฆ่าสัตว์  การลักทรัพย์  และการประพฤติผิดในกาม

5.      สัมมาอาชีวะ  คือ การเลี้ยงชีพชอบ  เว้นจากการเลี้ยงชีพในทางที่ผิด เช่น การหลอกลวงเขากิน การปล้นเขา  การบังคับผู้อื่นให้ค้าประเวณี  การค้ายาเสพติด เป็นต้น

6.      สัมมาวายามะ   คือ ความเพียรพยายามชอบ  หมายถึง ความเพียรพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง ได้แก่ ความเพียรพยายามระมัดระวังตนมิให้ทำความชั่ว เพียรพยายามละความชั่วที่เกิดขึ้นในตน เพียรพยายามทำความดีให้เกิดขึ้นในตน และเพียรพยายามรักษาคุณงามความดีที่เกิดขึ้นในตนให้อยู่ตลอดไป

7.      สัมมาสติ  คือความระลึกชอบ  หมายถึง  การตั้งสติกำหนดพิจารณาให้เห็นสิ่งทั้งหลายที่ปรากฏตามสภาพความเป็นจริง  ได้แก่  การพิจารณาร่างกาย จิต และความรู้สึกของตนให้เห็นตามสภาพที่เป็นจริง

8.      สัมมาสมาธิ  คือความตั้งใจมั่นชอบ ได้แก่ การตั้งจิตแน่วแน่อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยชอบ