โรคเอดส์
สาเหตุ
เอดส์ หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Sydrome) เป็นกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์
ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว
แหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น วัณโรคปอดบวม หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ
อาการจะรุนแรง และ เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ช่องทางการติดต่อที่สำคัญมี 3 ทาง คือ
1. การร่วมเพศกับผู้ติดเชื้อเอดส์ โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
2. ทางเลือดหรือผลิตภัณฑ์จากเลือด โอกาสติดเชื้อขึ้นกับปริมาณไวรัสในเลือด เช่น จากการถ่ายเลือด การปลูกถ่ายอวัยวะต่าง ๆ ที่มีเชื้อไวรัสเอดส (ดวงตา หัวใจ ตับ ไต) การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การสักผิวหนัง การเจาะหู การฝังเข็ม
3. จากการรับเชื้อโดยผ่านทางรก เช่น ทารกได้จากมารดา เป็นการติดเชื้อตั้งแต่กำเนิด
และสามารถติดทั้งในระหว่างการคลอดและหลังคลอดก็ได้
อาการ
อาการต่าง ๆ ของโรค มี 2 ระยะ ดังนี้
1. ระยะไม่ปรากฏอาการ ผู้ติดเชื้ออาจจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด ระหว่างนี้สุขภาพจะแข็งแรงเหมือนคนปกติ
เลือดจะให้ผลบวกหลังรับเชือประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไปผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะอยู่ในระยะนและไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ
เมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็อาจถ่ายทอดเชื้อเอดส์ต่อไปได้
2. ระยะที่มีอาการ
2.1 ระยะเริ่มปรากฏอาการ ในระยะนี้นอกจากเลือดจะให้ผลบวกแล้วยังอาจ มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง เช่น
มีเชื้อราในปากและลำคอ ต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณ คอ รักแร้ ขาหนีบ เป็นงูสวัดหรือแผลเริมชนิดลุกลาม
มีอาการเรื้อรังนานเกิด 1 เดือน โดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น มีไข้ ท้องเสีย ผิวหนังอักเสบ น้ำหนักลด
2.2 ระยะโรคเอดส์ ภูมิต้านทานของผู้ป่วยถูกทำลายมาก ทำให้เกิดการติดเชื้อโรคที่มักไม่เป็นในคนปกติ ที่เรียกว่า "
โรคติดเชื้อฉวยโอกาส " ซึ่งมีหลายชนิดแล้วแต่ว่าติดเชื้อชนิดใด ที่ส่วนใดของร่างกาย เช่น
- ถ้าเป็นปอดบวมจากเชื้อ Pneumocystis Carinii จะมีไข้ ไอ หอบ
- ถ้าเป็นเชื้อราในทางเดินอาหารจะมีอาการ เจ็บคอ กลืนลำบาก
- ถ้าเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อ Crytococcus จะมีอาการปวดศีรษะ คอแข็ง
- บางรายอาจเป็นมะเร็ง เช่น มะเร็งหลอดเลือด มีอาการเป็นจ้ำสีม่วงแดงคล้ำ ตามผิวหนัง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
จะมีก้อนโตตามที่ ต่างๆ ของร่างกาย
การป้องกัน
1. ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
2. รักเดียวใจเดียว
3. ไม่ใช้สิ่งของที่สามารถติดเชื้อเอดส์ร่วมกับผู้อื่น เช่น เข็มและกระบอกฉีดยา
4. ไม่ควรใช้เครื่องมือบางอย่างที่อาจทำให้เกิดบาดแผลร่วมกัน เช่น ใบมีดโกนหนวด
กรรไกรตัดเล็บ ไม้แคะหู แปรงสีฟัน เป็นต้น
5. ขอรับบริการปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ก่อนแต่งงาน